จำเป็นแค่ไหน ที่ต้องเปลี่ยน เว็บไซต์เดิม เป็น Web Responsive ?

2834
แบ่งปัน

อันนี้ เป็นอีกคำถาม ที่ผมได้เจอบ่อยมากๆ ว่า “มันจำเป็นแค่ไหนกันเหรอ ที่ต้องเปลี่ยน เว็บไซต์ ทั้งเว็บ ให้เป็น Web Responsive อะไรที่ว่าเนี่ย?” “จะหลอกให้เสียตังค์จ้างคุณมาทำเว็บหรือเปล่า?” คำตอบที่ผมมักจะตอบกลับไปก็คือ “ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเลยครับ” ซึ่งนั่นหมายถึง

ไม่จำเป็น.. ต้องเปลี่ยนเว็บเก่าให้เป็นแบบ Responsive เลยครับ ถ้าคุณไม่สนว่าจะมีคนเจอคุณหรือเปล่าใน Google

ไม่จำเป็น.. ต้องเปลี่ยนเว็บเก่าให้เป็นแบบ Responsive เลยครับ ถ้าคุณไม่สนว่า เว็บของคุณ จะติดอันดับหน้าไหน

ไม่จำเป็น.. ต้องเปลี่ยนเว็บเก่าให้เป็นแบบ Responsive เลยครับ ถ้าคุณไม่สนใจ ความรู้สึกของลูกค้าที่เข้ามาชมเว็บของคุณ

ไม่จำเป็น.. ต้องเปลี่ยนเว็บเก่าให้เป็นแบบ Responsive เลยครับ ถ้าคุณไม่สนใจว่า คู่แข่งเค้าทำเว็บไซต์สวยงาม ล้ำหน้าคุณไปแค่ไหนแล้ว

และสุดท้าย ไม่จำเป็น.. ต้องเปลี่ยนเว็บเก่าให้เป็น Web Responsive เลยครับ ถ้าคุณไม่คิดจะทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ต

รับทำเว็บ web responsive เว็บไซต์

ลองย้อนถามตัวเองดูนะครับ เวลาที่คุณท่องเว็บ ไปเจอ เว็บไซต์ นั้น เว็บไซต์ นี้ ก็จะมีทั้งแบบที่คุณ ต้องถ่างนิ้ว เพื่อซูมดูข้อความต่างๆ ในหน้าเว็บนั้นๆ หรือบางเว็บ คุณก็เห็นทั้งข้อความ และภาพเต็มจอเลย สวยงามดีมากๆ บน มือถือ และแท็บเล็ต ถามตัวคุณเองครับ ว่าถ้าเป็นคุณ จะนิยมเข้าเว็บไหน และจะให้ความเชื่อถือกับบริษัทที่มีเว็บไซต์ประเภทไหน

เรื่องเด็ดห้ามพลาด  10 วิธี โปรโมทเว็บ ด้วยเทคนิคการตลาด

อย่างที่ผมมักจะอธิบายให้ลูกค้าฟังบ่อยๆ ว่า เว็บไซต์ ก็เปรียบเสมือน หน้าตาของบริษัท ที่จะให้ความน่าเชื่อถือ ความสนใจ และความศรัทธา กับลูกค้า หรือคนที่เข้ามาดูเว็บของคุณ ถ้าเว็บไซต์ มันไม่สวย ผู้ใช้งาน เข้ามาใช้แล้ว ต้องลำบาก ซูมเข้า ซูมออก นั่นคงไม่เรียกว่า เป็นประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ ที่ดีสักเท่าไหร่นัก จริงมั้ยครับ

นอกจากนี้ Google เจ้าพ่อ เสิร์จเอ็นจิ้น ระดับโลก ยังออกมากล่าวว่า จะทำการลดระดับ หรือลดความสำคัญ กับเว็บไซต์ ที่ไม่เป็น “Mobile-Friendly” เพราะจากผลการสำรวจ พบว่า เว็บที่ทำเป็นแบบ Web Responsive จะให้ประสบการณ์ การเข้าถึง และใช้งานเว็บไซต์ กับลูกค้าได้ดีกว่า ทำให้ขายของได้มากขึ้นอย่างชัดเจน ในขณะที่เว็บไซต์แบบเก่า ลูกค้าส่วนใหญ่ เริ่มจะเบือนหน้าหนี บ้างก็ปิดทิ้ง ทันทีที่เจอ เพราะรำคาญ นอกจากจะไม่สวยแล้ว ยังเปลืองเน็ต 3G มากๆ อีกด้วย เพราะเวลาโหลดแต่ละหน้า ต้องโหลดทุกอย่างขึ้นมาพร้อมๆ กันหมด เปลืองเน็ต และนาน เสียเวลา

เรื่องเด็ดห้ามพลาด  SEO คืออะไร ทำไมคนทำธุรกิจออนไลน์ ต้องรู้และเข้าใจ

ในขณะที่ เว็บไซต์ ที่เป็น Web Responsive จะโหลดเฉพาะที่จำเป็น ประหยัด 3G ซึ่งส่งผลให้สามารถ “แสดงผลได้อย่างรวดเร็ว” ลูกค้า ไม่ต้องรอนาน

ในประเทศไทยเรา จำนวนเว็บที่เป็นแบบ Responsive ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ในขณะที่เว็บไซต์ แบบที่ “จ้างเค้าเขียน” ด้วยภาษา php โดยใช้โปรแกรม Dreamweaver เป็นหลัก เริ่มค่อยๆ ตายลงไปทีละเว็บ ที่ว่าตายนี่คือ คนไม่เข้าเว็บนะครับ ที่คนไม่เข้า เพราะเค้าหาเว็บคุณไม่เจอแล้ว เนื่องจาก Google ลดอันดับลง จากที่เคยอยู่หน้าแรก ก็หลุดไปหน้า 4 -5 และอาจซวย หลุดไปมากกว่านั้นอีก

เพราะทุกวันนี้ มีการใช้งานอินเตอร์เน็ต จาก สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต สูงมากๆ เรียกได้ว่า สูงถึง 74% ของการเข้าใช้งานทั้งหมด ของทุกอุปกรณ์ นั่นแปลว่าอะไร ???

แปลว่า เว็บที่ทำเป็น Web Responsive หรือ Mobile-Friendly ย่อมได้เปรียบกว่า เว็บแบบเดิมๆ ในทุกๆ ด้าน ทั้งความสามารถของตัวมันเอง และปัจจัยภายนอก อย่าง Google ที่จะลดอันดับเว็บเก่าๆ ที่ไม่เป็น Responsive ลงมา

เรื่องเด็ดห้ามพลาด  ทำไมต้องมี เว็บไซต์ ของบริษัทด้วยล่ะ ในเมื่อก็มี Facebook อยู่แล้ว

อยากรู้มั้ยครับว่า เว็บไซต์ ของคุณ หรือของบริษัทคุณ เป็น web responsive หรือไม่ ง่ายมากเลยครับ แค่เอา URL ของเว็บ ไปเช็คกับทาง Google โดยพิมพ์คำว่า Check mobile friendly ในช่องค้นหาของ Google แล้วก็คลิกเข้าไปที่ผลการค้นหาอันแรก แล้วก็ใส่ URL ของเว็บเราไป แค่นั้นมันจะบอกเลยว่า เว็บไซต์ นั้นเป็น Mobile-Friendly หรือเปล่า

หากพบว่า เว็บไซต์ ของคุณ หรือของบริษัทคุณ ไม่เป็น responsive และต้องการความช่วยเหลือ เพราะไม่อยากเสียเงินเยอะ ให้กับบริษัทซึ่งดูแลเว็บของคุณอยู่แล้ว หรือมีปัญหากับบริษัทรับทำเว็บเจ้าเดิม แพงไป? ทิ้งงาน? เรื่องมาก? แนะนำว่า ให้มาปรึกษาผมได้เลยครับ ยินดีให้ความช่วยเหลือครับ

ภาพจาก Freepik