ที่ปรึกษาการตลาด ออนไลน์ มีหน้าที่ช่วยอะไรเจ้าของธุรกิจบ้าง อธิบายให้เข้าใจแบบง่ายๆ

4261
แบ่งปัน

มีลูกค้าหลายท่าน ที่สงสัย และมักจะถามคำถามนี้อยู่เป็นประจำว่า “ ที่ปรึกษาการตลาด ออนไลน์ จ้างมาแล้ว จะทำอะไรให้กับเราบ้าง? ” คำตอบของคำถามนี้ ผมคงตอบได้ในนามของ บริษัท แอพเทพ เท่านั้น แต่ไม่สามารถตอบแทน ในนามของบริษัท การตลาดอื่นๆ ได้ เพราะแต่ละบริษัท ก็มีบริการที่แตกต่างกันไป และมีนโยบายในการทำงาน และการให้บริการที่ไม่เหมือนกัน เหตุผลที่ทำให้ลูกค้า มักจะสงสัยแบบนี้ เพราะว่า ค่าจ้าง ที่ปรึกษาการตลาดนั้น ไม่ถูกนะครับ หลักหมื่นบาทขึ้นไปทั้งนั้น จนทำให้ส่วนใหญ่ เกิดความสงสัย และมีจำนวนไม่น้อย ที่เคยจ้างที่ปรึกษาจากที่อื่นๆ และโดน.. มาแล้ว เลยทำให้สงสัย และระแวงว่า ถ้าจ้างแอพเทพมาเป็นที่ปรึกษาให้แล้ว จะเจอประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรือไม่?

หน้าที่ของ ที่ปรึกษาการตลาด ออนไลน์ มีอะไรบ้าง?

ถ้าจะให้ผมบรรยายโดยละเอียดเลยนั้น ก็คงจะยาวมากๆ เอาเป็นว่า ผมจะอธิบายแบบคร่าวๆ ก็แล้วกันนะครับ เอาแค่พอให้เห็นภาพ ว่าจริงๆ แล้ว ที่ปรึกษาในบริษัท หรือในองค์ เค้าทำอะไรกันบ้าง

เรื่องเด็ดห้ามพลาด  เราคือ ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ ที่ไม่ได้เน้นเพียงแค่การเพิ่มยอดขายเพียงอย่างเดียว

โดยหลักๆ แล้ว ที่ปรึกษาการตลาด ก็มีหน้าที่ ให้คำปรึกษา ซึ่งตรงนี้ มีความสำคัญเป็นอย่างมากๆ เพราะคำว่า “ให้คำปรึกษา” นั้นหมายถึงทุกเรื่อง และทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ ถ้าจะให้เห็นภาพ ก็ได้แก่ เรื่องเล็กๆ อย่างการออกแบบโลโก้ของแบรนด์สินค้า ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ อย่าง ให้คำปรึกษา ว่าควรจะขยายสาขา หรือเพิ่มเงินลงทุนหรือไม่? อะไรประมาณนี้ มันต้องครอบคลุมทุกเรื่องจริงๆ นะครับ เพราะการตลาด มันไม่ใช่แค่ การซื้อโฆษณา หรือการสร้างโฆษณาเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องหมายถึง การสร้างแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้า ได้รู้จัก และมีความรู้สึกดีๆ กับแบรนด์ของเราอีกด้วย นั่นแปลว่า ที่ปรึกษา ต้องเข้าไปยุ่งในทุกเรื่อง ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ กระบวนการผลิต การขาย ไปจนถึง การให้บริการ หลังการขายเลยนะครับ

ที่ปรึกษาการตลาด ออนไลน์

 

ถ้าคุณคิดว่า จะจ้างที่ปรึกษา มาให้คำปรึกษา แค่จะทำยังไงให้ขายดี? จะทำยังไงถึงเพิ่มยอดขายได้เร็วๆ? แบบนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของที่ปรึกษาครับ มันเป็นเรื่องของ เทคนิคในการขายมากกว่าครับ ซึ่งส่วนใหญ่ ที่ต้องการขายเยอะ ขายเร็วแบบนี้ มักจะไม่ต้องการสร้างแบรนด์ หรือทำเป็นระยะยาว มาเร็วไปเร็ว แบบนี้ ส่วนใหญ่ ผมจะไม่รับงานครับ ผมจะเน้นรับงาน กับบริษัท หรือคนที่ต้องการจะสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดอย่างจริงจัง ทำธุรกิจระยะยาว ( ไม่ใช่มาทำกับผมนะครับ หมายถึง ธุรกิจของลูกค้า ต้องเปิดให้บริการ หรือขายสินค้าระยะยาว ไม่ใช่ขายแค่เอากำไร แป็บๆ แล้วก็ปิดหนี แล้วไปเปิดเป็นแบรนด์ใหม่อีก แบบนี้ แสดงให้เห็นเลยว่า เน้นผลกำไร ไม่เน้นคุณภาพ )

เรื่องเด็ดห้ามพลาด  ทำไมต้องมี เว็บไซต์ ของบริษัทด้วยล่ะ ในเมื่อก็มี Facebook อยู่แล้ว

เรื่องของการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ การทำเว็บไซต์ หรือ Facebook นั้น ไม่ต้องพูดถึงครับ มันเป็นเรื่องที่ต้องรู้ และต้องให้คำปรึกษาอยู่แล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ ค่าบริการ หรือ เงินเดือนของที่ปรึกษานั้น แพงมาก อย่างในบริษัทใหญ่ๆ ที่ปรึกษา มีเงินเดือนเกือบแสนบาท ไม่ใช่เพราะเค้าทำงานได้เก่งกว่าคนอื่นหลายเท่า แต่เป็นเพราะเค้าฉลาด ทันคน มีประสบการณ์เยอะ และมีสายตาที่กว้างไกล คำปรึกษาที่เอ่ยออกมาแนะนำนั้น จึงมีค่าดั่งทอง

ยังมีลูกค้าอีกเป็นจำนวนมาก ที่เข้าใจผิด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ส่วนใหญ่มักจะคิดว่า การตลาดมันมีสูตรสำเร็จ สามารถจ้างบริษัทการตลาดให้ทำ “การตลาด” ทั้งหมดให้ได้ โดยที่ตัวเอง ไม่ต้องทำอะไรเลย ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ครับ สิ่งที่คุณต้องการจาก ที่ปรึกษาการตลาด ก็คือ คำแนะนำ “ที่มีค่าดั่งทอง” ที่จะช่วยพลิกชีวิต หรือเปลี่ยนจากบริษัทที่ใกล้เจ๊ง หรือร้านอาหารที่ไม่มีคนเข้ามากิน กลายเป็นบริษัทที่รุ่งเรือง หรือร้านอาหารที่ขายดี จนโด่งดัง นี่ต่างหาก คือสิ่งที่คุณต้องการ ไม่ใช่ต้องการให้เขา มาทำการตลาดให้

เรื่องเด็ดห้ามพลาด  SEO Online Marketing เทคนิคการทำธุรกิจออนไลน์แบบใหม่ ประหยัดและได้ผลที่สุด

เพราะเรื่องของการทำ การตลาดนั้น เจ้าของธุรกิจ ต้องทำเอง และต้องมีการฟอร์มทีมการตลาดของตัวเอง เพื่อดูแลในระยะยาว จะไปหวังพึ่ง “ยืมจมูกคนอื่นมาหายใจ” เสมอไปไม่ได้ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ตั้งทีมการตลาด และจ้างที่ปรึกษา เพื่อให้มาแนะนำ รวมทั้งฝึกสอน ทีมการตลาดของคุณ ให้ทำการตลาดเป็น เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณ สามารถเดินได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน ถ้าคุณไม่คิดทำแบบนี้ คุณก็ต้องจ้างบริษัทการตลาดอยู่เรื่อยไป กลายเป็นทำให้ธุรกิจตัวเองต้องมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ ผิดกับหลักการ ในการทำการตลาดออนไลน์ ที่ลดต้นทุนให้น้อย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเอาชนะคู่แข่ง และเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้น

ลองเอาไปคิดดูนะครับ ว่าจริงอย่างที่ผมว่ามาหรือไม่?